18 พฤศจิกายน 2568

โครงการ “Community Waste Model” จาก GC เข้ารอบสุดท้าย 2 เวทีระดับโลกกับGlobal Sustainability Awards และ Platts Global Energy Awards ตอกย้ำบทบาทองค์กรไทยผู้นำด้านการจัดการขยะรีไซเคิลอย่างยั่งยืน

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ตอกย้ำความสำเร็จในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อโครงการ “Community Waste Model (CWM)” สร้างปรากฏการณ์ได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลกพร้อมกันถึง 2 เวทีใหญ่ โดยผ่านเข้ารอบสุดท้าย (Finalist) ทั้งรางวัล Global Sustainability Awards 2025 และ Platts Global Energy Awards 2025

โดยบนเวที Global Sustainability Awards 2025 จัดโดย Reuters Events โครงการ CWM ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 12 โครงการสุดท้าย (Top 12 Finalist) ในสาขา Social Impact Award ซึ่งเป็นสาขาที่มีการแข่งขันสูงที่สุดจากผู้เข้าร่วมกว่า 93 โครงการทั่วโลก ขณะเดียวกัน โครงการฯ ยังได้รับคัดเลือกเป็น Finalist ในสาขา Corporate Impact Award บนเวที Platts Global Energy Awards 2025 จัดโดย S&P Global ซึ่งจะประกาศผลในเดือนธันวาคมนี้ ณ มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

นายกฤษณ์ ตรีนุชกร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานกำกับดูแลกิจการองค์กรและกฎหมาย กล่าวว่า “การที่โครงการ ‘Community Waste Model’ สามารถผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจนเข้ารอบสุดท้ายของสองรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลก ถือเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของ GC และเป็นการยืนยันว่าความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนของเรานั้นได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ขอขอบคุณพนักงาน พันธมิตร และชุมชนทุกแห่งที่ร่วมเดินทางมากับเรา และจะยังคงเดินหน้าขยายผลต้นแบบนี้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับประเทศและโลกต่อไป”

การผ่านเข้ารอบสุดท้ายของทั้งสองรางวัล ซึ่งจัดโดยองค์กรสื่อชั้นนำระดับโลก ถือเป็นการยืนยันถึงผลกระทบเชิงบวกของโครงการ Community Waste Model ที่สร้างคุณค่าครอบคลุมทั้งมิติสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ผ่านโมเดล Social Enterprise ที่สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนอย่างยั่งยืน

ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โครงการ Community Waste Model สามารถสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ได้แก่:

  • จัดตั้งศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิลในชุมชน 13 แห่ง
  • รวบรวมพลาสติกใช้แล้วกลับสู่ระบบรีไซเคิลกว่า 1,150 ตัน
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 2,064 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
  • สร้างรายได้หมุนเวียนและเสริมความแข็งแกร่งให้ชุมชนกว่า 33 ล้านบาท

ความสำเร็จในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของ “ต้นแบบการจัดการขยะรีไซเคิลอย่างยั่งยืนและครบวงจร” ที่พร้อมเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อย่างแท้จริง