07 พฤษภาคม 2556

นำส่งงบการเงินสำหรับไตรมาส 1/2556 และ MD&A

ที่ 01- 296/2556 7 พฤษภาคม 2556 เรื่อง นำส่งงบการเงินสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 และคำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการและแบบรายงานที่เกี่ยวข้องของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. งบการเงินของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") และบริษัทย่อย สำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีแล้ว จำนวน 1 ฉบับ และ ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษจำนวน 1 ฉบับ 2. แบบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของบริษัทฯ (แบบ F45-3) 3. คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการสำหรับผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 บริษัทฯ ขอนำส่งงบการเงินสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ซึ่งผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ได้แก่บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด ผ่านการสอบทานจากคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทฯ แล้ว (รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 และ 2) พร้อมทั้งจัดทำคำอธิบายและบทวิเคราะห์ผลการดำเนินงานไว้ด้วย (รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3) ในไตรมาส 1/2556 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") มีกำไรรวมสุทธิ 12,075 ล้านบาท หรือ 2.68 บาทต่อหุ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากไตรมาส 1/2555 ที่มีผลกำไรรวมสุทธิ 9,852 ล้านบาท หรือ 2.19 บาทต่อหุ้น และปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากไตรมาส 4/2555 ซึ่งมีกำไรรวมสุทธิอยู่ที่ 10,388 ล้านบาทหรือ 2.30 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2556 บริษัทฯ ได้ลดสัดส่วนเงินลงทุนในบริษัท พีทีที ยูทิลิตี้ จำกัด ("PTTUT") จากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 30.31 จากการควบกิจการของบริษัท PTTUT และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าอิสระ (ประเทศไทย) จำกัด ("IPT") เป็นบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด ("GPSC") ทำให้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2556 บริษัทฯ ต้องเปลี่ยนวิธีการรับรู้กำไรจากการลงทุนในบริษัท GPSC จากเดิมที่รับรู้โดยการรวมรายได้และค่าใช้จ่ายทุกบรรทัดในงบกำไรขาดทุนของบริษัท PTTUT หลังจากหักรายการระหว่างกัน ไว้ในงบการเงินรวมของบริษัทฯ (Consolidation) เป็นการรับรู้เพียงผลกำไรหรือขาดทุนตามสัดส่วนเงินลงทุนของบริษัทฯ (Take Equity) ? ตารางสรุปผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย (หน่วย : ล้านบาท) ไตรมาส ไตรมาส2 ไตรมาส2 % +/- % +/- 1/2556 1/2555 4/2555 YoY QoQ รายได้จากการขาย 141,309 133,666 144,595 6% -2% EBITDA 16,419 14,988 16,553 10% -1% EBITDA Margin (%) 12% 11% 11% 0% 0% กำไรสุทธิ 12,075 9,852 10,388 23% 16% กำไรสุทธิ บาท/หุ้น 2.68 2.19 2.30 22% 17% Adjusted EBITDA1 16,914 11,483 16,584 47% 2% Adjusted EBITDA Margin (%) 12% 9% 11% 3% 1% หมายเหตุ: 1. Adjusted EBITDA คือ EBITDA ที่ไม่รวมผลกระทบจากมูลค่าสต๊อกน้ำมัน (ไม่รวม Inventory และ NRV) 2.มีการเปลี่ยนแปลงการจัดประเภทค่าใช้จ่ายของ Catalyst จากค่าใช้จ่ายในการผลิตเป็นค่าเสื่อมและรายการตัดบัญชีตามนโยบายบัญชีที่เริ่มใช้ตั้งแต่ไตรมาส1/2556 ในไตรมาส 1/2556 ราคาน้ำมันดิบดูไบมีความผันผวนสูงโดยแกว่งตัวอยู่ในช่วง 104 - 114 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 108 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นได้แก่ การหยุดดำเนินงานฉุกเฉินของแหล่งผลิตน้ำมันที่ทะเลเหนือและความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบจากปัญหาข้อพิพาทใ นตะวันออกกลางยังคงดำเนินอยู่เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงได้แก่ปัญหาวิกฤติของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโร โซนที่กลับมาสร้างความกังวลให้กับตลาดด้วย โดยในไตรมาส 1/2556 บริษัทฯ มี Market GRM อยู่ที่ 4.37 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และมี Accounting GRM อยู่ที่ 3.73 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (รวมผลของ Stock Loss เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง) ในส่วนของธุรกิจอะโรเมติกส์ ทั้งส่วนต่างราคาพาลาไซลีนกับคอนเดนเสทและส่วนต่างราคาเบนซีนกับคอนเดนเสทปรับเพิ่มขึ้นจากภาวะอุปทานที่ต งตัวทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจอะโรเมติกส์มี Market P2F อยู่ที่ 394 เหรียญสหรัฐ/ตัน และในส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องมีอัตราการผลิตและปริมาณขายโดยรวมเพิ่มขึ้นจากอัต ราการผลิตที่สูงขึ้นในไตรมาส 1/2556 ประกอบกับราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยราคา HDPE เฉลี่ยอยู่ที่ 1,482 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งส่งผลทำให้บริษัทฯ รายงาน EBITDA ที่ 16,419 ล้านบาทปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากไตรมาส 1/2555 และลดลงร้อยละ 1 จากไตรมาส 4/2555 ในขณะที่ EBITDA Margin อยู่ที่ร้อยละ 12 ในไตรมาสนี้ ทั้งนี้ Adjusted EBITDA ของไตรมาส 1/2556 อยู่ที่ 16,914 ล้านบาทและมี Adjusted EBITDA margin อยู่ร้อยละ 12 เหตุการณ์สำคัญตั้งแต่ต้นปี 2556 สรุปได้ดังนี้ - เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2556 ได้มีการดำเนินการควบบริษัทระหว่าง PTTUT กับ IPT โดยใช้ชื่อบริษัทใหม่ว่า บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด ("GPSC") โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 30.31 - เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2556 บริษัท PT Pertamina (Persero) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของประเทศอินโดนีเซีย กับ บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญา Head of Agreement (HOA) เพื่อร่วมศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมทุนสร้างโรงงานปิโตรเคมิคอลทั้งอุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำ (Petrochemical Complex) ทั้งนี้ไม่รวมส่วนที่เป็นธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งการร่วมลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ - เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2556 บริษัทไออาร์พีซีจำกัด (มหาชน) ("IRPC") และ บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญา (MOU) เพื่อร่วมกันศึกษาโอกาสทางธุรกิจในผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำอาทิเช่นผลิตภัณฑ์กลุ่ม Polyol และกลุ่ม Styrenic เป็นต้น ทั้งนี้การศึกษาดังกล่าวเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ - เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556 บริษัทฯ ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา - เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556 ผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลประจำปี 2555 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 3.40 บาท ซึ่งคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 15,329 ล้านบาท - เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2556 ผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้ปรับโครงสร้างการจัดการบริหารบริษัทในเครือของบริษัทฯ ในกลุ่มธุรกิจ Olefins และ Polymers คือบริษัท บางกอกโพลีเอททีลีน จำกัด (มหาชน) (BPE) และ บริษัท พีทีที โพลีเอททิลีน จำกัด รวมถึงการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ - เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2556 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นใน บริษัท พีทีที ฟีนอล จำกัด ("PPCL") ในสัดส่วนร้อยละ 40 จากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและการปรับโครงสร้างของกลุ่มปตท. ที่จะให้บริษัทฯ เป็นแกนนำธุรกิจปิโตรเคมี (Petrochemical flagship) และสอดคล้องกับทิศทางของบริษัทฯ ที่จะเปิดโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจ High Volume Specialty ตามที่ได้แจ้งนักลงทุนแล้วผ่านทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 26 เมษายน 2556 ทั้งนี้บริษัทฯได้ดำเนินการชื้อหุ้นดังกล่าวเรียบร้อยแล้วในวันที่ 2 พฤษภาคม 2556 ส่งผลให้บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 ใน PPCL - ในเดือน เมษายน 2556 บริษัท Myriant ก่อสร้างโรงงานผลิต Succinic Acid ที่รัฐ Louisiana แล้วเสร็จ และกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบเครื่องจักรโดยโรงงานดังกล่าวมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 14,000 ตันต่อปี - ในเดือนเมษายน 2556 บริษัท Natureworks ได้ทดลองเดินเครื่องผลิต (Commissioning) สำหรับส่วนขยายหน่วยผลิต PLA เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต PLA จาก 140,000 ตัน/ปี เป็น 150,000 ตัน/ปี จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยงานการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ โทร. 02 265 8400 ต่อ 8421, 8712, 8713, 8714, 8327 ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้

ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ