06 พฤศจิกายน 2557

นำส่งงบการเงินสำหรับไตรมาส 3/2557 และ MD&A

ที่ PTTGC/FNA 034/2557 6 พฤศจิกายน 2557 เรื่อง นำส่งงบการเงินสำหรับงวด 3 เดือนและงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 และคำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการและแบบรายงานที่เกี่ยวข้องของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. งบการเงินของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") และบริษัทย่อย สำหรับงวด 3 เดือนและงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีแล้ว จำนวน 1 ฉบับ และ ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษจำนวน 1 ฉบับ 2. แบบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของบริษัทฯ (แบบ F45-3) 3. คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการสำหรับผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 บริษัทฯ ขอนำส่งงบการเงินสำหรับงวด 3 เดือนและงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ซึ่งผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ได้แก่บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด ผ่านการสอบทานจากคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทฯ แล้ว (รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 และ 2) พร้อมทั้งจัดทำคำอธิบายและบทวิเคราะห์ผลการดำเนินงานไว้ด้วย (รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3) ในไตรมาส 3/2557 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 7,591 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.68 บาท/หุ้น ปรับตัวลดลงร้อยละ 21 จากไตรมาส 3/2556 ซึ่งมีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 9,610 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.13 บาท/หุ้น และ ปรับตัวขึ้นร้อยละ 25 จากไตรมาส 2/2557 ที่มีผลกำไรสุทธิรวมสุทธิอยู่ที่ 6,085 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.35 บาท/หุ้น ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2557 ที่ไม่รวมผลกระทบจากมูลค่าสต๊อกน้ำมัน (Stock Gain/(Loss) และ NRV) ปรับตัวดีขึ้นโดยมีธุรกิจโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มี EBITDA ที่ไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันและ NRV (Adj. EBITDA) อยู่ที่ 15,702 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นผลประกอบการที่สูงสุดในรอบ 5 ไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจโอเลฟินส์ จากการที่ได้รับวัตถุดิบก๊าซที่คงที่มากขึ้นและราคาผลิตภัณฑ์โพลีเอทิลีนที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจอะโรเมติกส์ก็มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเช่นกันเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าจากส่วนต่างราคาเ บนซีนและวัตถุดิบคอนเดนเสทที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับส่วนต่างราคาพาราไซลีนและวัตถุดิบคอนเดนเสทปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน ในขณะที่ธุรกิจการกลั่นมีผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงซึ่งมีสาเหตุมากจากส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโต รเลียมกับวัตถุดิบน้ำมันดิบปรับตัวลดลงจากอุปสงค์ของผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวลดลงและปริมาณอุป ทานจากโรงกลั่นทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซาอุดิอาระเบีย และจีน ทั้งนี้ การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบตลอดไตรมาส 3/2557 เป็นผลมาจากการผลิตน้ำมันดิบจาก Shale Oil ในสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับลดลงของการถือครองอนุพันธ์ของ Hedge Fund ส่งผลให้ธุรกิจการกลั่นและธุรกิจอะโรเมติกส์ต้องบันทึกผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและ NRV รวม 2,841 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มี EBITDA ของไตรมาส 3/2557 อยู่ที่ 12,861 ล้านบาท ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจหลักสามารถสรุปได้ดังนี้ ในไตรมาส 3/2557 ราคาน้ำมันดิบโดยรวมปรับลดลงอย่างมาก โดยราคาน้ำมันดิบดูไบในไตรมาส 3/2557 เปิดที่ 109.16 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และ ปิดที่ 94.61 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 14.55 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และเฉลี่ยที่ 101.45 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อุปทานน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นจากกำลังการผลิตน้ำมันดิบจาก Shale Oil ในสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มมากขึ้นประกอบกับการปรับลดลงของการถือครองอนุพันธ์ของ Hedge Fund ทั้งนี้ ส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปกับน้ำมันดิบดูไบส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเช่นกัน ส่งผลให้ไตรมาส 3/2557 มี CDU GRM (ไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมัน) อยู่ที่ 4.81 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลงร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2557 อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2556 CDU GRM เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เนื่องมาจากในไตรมาส 3/2556 มีการปิดซ่อมบำรุงหน่วย Hydrocracking Unit (HCU) ทำให้ปริมาณ Fuel Loss สูงกว่าในไตรมาสนี้ ดังนั้น GRM ในไตรมาส 3/2556 จึงอยู่ต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็น ผลการดำเนินงานของกลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ในไตรมาส 3/2557 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2556 และไตรมาส 2/2557 โดยมี P2F ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งสาเหตุหลักมาจากส่วนต่างราคาเบนซีนกับวัตถุดิบคอนเดนเสทที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะขาดแคลนของอ ปทานของผลิตภัณฑ์เบนซีน โดยส่วนต่างราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 จากไตรมาส 3/2556 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากไตรมาส 2/2557 มาอยู่ที่ 430 เหรียญสหรัฐฯ/ตันในไตรมาส 3/2557 ในขณะที่ผลิตภัณฑ์พาราไซลีนยังคงเผชิญปัญหาอุปทานส่วนเกิน อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้โรงงานอะโรเมติกส์หลายโรงในเอเชียได้หยุดการผลิตเนื่องจากมี Margin ที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ทำให้ปัญหาอุปทานส่วนเกินลดลงและเป็นเหตุให้ส่วนต่างระหว่างราคาพาราไซลีนกับวัตถุดิบคอนเดนเสทในไตรมาสนี ปรับตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า และเป็นผลให้ P2F margin ต่อตันของผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ในไตรมาส 3/2557 อยู่ที่ 290 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2556 ร้อยละ 11 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2557 ร้อยละ 235 สำหรับผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยEBITDA ในไตรมาส 3/2557 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2556 ร้อยละ 25 และ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2557 ร้อยละ 9 เนื่องจากในไตรมาส 3/2557 โรงโอเลฟินส์ของบริษัทฯ ได้รับวัตถุดิบก๊าซนำเข้าผลิตจากปตท. ในปริมาณที่มากขึ้นและคงที่มากขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตดีขึ้น ประกอบกับราคาผลิตภัณฑ์โพลีเอทิลีนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยราคา HDPE ในไตรมาส 3/2557 อยู่ที่ 1,604 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากไตรมาส 3/2556 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากไตรมาส 2/2557 ทำให้ EBITDA Margin ของกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องในไตรมาสนี้กลับมาอยู่ในระดับปกติที่ร้อยละ 28 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2556 ที่ร้อยละ 26 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2557 ที่ร้อยละ 25 ทั้งนี้ เนื่องจากในไตรมาส 3/2557 ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องทั้งระหว่างไตรมาสและหลังสิ้นสุดไตรมาส ทำให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากสต๊อกของกลุ่มธุรกิจการกลั่นและอะโรเมติกส์รวมอยู่ที่ 2,841 ล้านบาท จากราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับตัวลดลง 14.55 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลระหว่างไตรมาส ในขณะที่บริษัทฯ มีสต๊อกของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจการกลั่นและอะโรเมติกส์รวมอยู่ที่ 9.12 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังต้องบันทึกผลขาดทุนจาก NRV อีก 246 ล้านบาท จากการที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังจากสิ้นสุดไตรมาสอีกด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายปฏิภาณ สุคนธมาน) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี หน่วยงานการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ โทร. 02 265 8421, 02 265 8574, 02 140 8712-14 ______________________________________________________________________ สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้ และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้

ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ