GC in Focus
EP.5 แตกต่างด้วยโรงกลั่นชีวภาพครบวงจร ต่อยอดความสำเร็จจาก SAF รายแรกของประเทศ สู่เคมีภัณฑ์ชีวภาพและพลาสติกชีวภาพ

GC เดินหน้าโรงกลั่นชีวภาพ (Biorefinery) ครบวงจรเต็มกำลัง สามารถผลิตเคมีภัณฑ์ชีวภาพและพลาสติกชีวภาพด้วยหน่วยการผลิตเดียวกัน ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจมูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างยืดหยุ่นและใช้งานได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม
จากความสำเร็จในช่วงต้นปีที่โรงกลั่นชีวภาพของ GC สามารถผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) จากน้ำมันพืชใช้แล้วได้เป็นรายแรกของประเทศ โดยไม่ต้องสร้างโรงงานใหม่ แต่ใช้การต่อยอดองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ พัฒนากระบวนการให้สามารถใช้งานร่วมกับหน่วยการกลั่นเดิมได้ ทำให้สามารถประหยัดการลงทุนเมื่อเทียบกับการสร้างโรงงานใหม่ ด้วยคุณภาพ SAF ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานตามสากล ISCC CORSIA และมาตรฐาน ISCC Plus
SAF ที่ผลิตโดย GC ได้เริ่มนำไปใช้งานในเที่ยวบินพาณิชย์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สแล้ว นับเป็นการวางรากฐานสำคัญสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมการบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผลักดันไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำของภูมิภาคอาเซียน ตอกย้ำกลยุทธ์ขยายธุรกิจมูลค่าสูงและคาร์บอนต่ำ (High Value & Low Carbon Business) สร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน
เนื่องจากหน่วยการผลิตของ GC ครอบคลุมและเชื่อมโยงกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ผลผลิตจากโรงกลั่นชีวภาพครบวงจรนี้จึงสามารถนำไปต่อยอดผลิตเคมีภัณฑ์ชีวภาพและพลาสติกชีวภาพ ซึ่งมีมูลค่าสูงและตอบโจทย์การใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม รองรับความต้องการของตลาดโลกที่เน้นการใช้วัสดุทางเลือกเพื่อความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบัน GC ได้เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 3 ผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นวัตถุดิบเสริมศักยภาพให้แก่วงการอุตสาหกรรม ได้แก่
- ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ พลาสติกแข็ง ของเล่นเด็ก และชิ้นส่วนยานยนต์ (Bio-Propylene)
- ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมการผลิตยางรถยนต์ และ รองเท้ากีฬา (Bio-Butadiene)
- ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมการผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ สิ่งทอ และขวดพลาสติก PET (Bio-Purified Terephthalic Acid)
นอกจากนี้ โรงกลั่นชีวภาพยังมีศักยภาพในการผลิตเคมีภัณฑ์ชีวภาพและพลาสติกชีวภาพได้อีกหลายชนิด หากตลาดมี ความพร้อมก็สามารถตอบสนองได้ทันที อาทิ Bio-PE สำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์ ขวด เครื่องใช้ในครัวเรือน และฟิล์มพลาสติก Bio-Propylene Oxide สำหรับอุตสาหกรรมโฟมเบาะรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ และฉนวน Bio-Phenol สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล Bio-Benzene สำหรับอุตสาหกรรมพลังงาน เคมีภัณฑ์ขั้นต้น และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
การใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างน้ำมันพืชใช้แล้วมาเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตเป็นสินค้ามูลค่าสูงที่หลากหลาย สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่ง GC ยึดมั่นมาโดยตลอด รวมทั้งสอดรับกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy)
โรงกลั่นชีวภาพครบวงจร ไม่เพียงสะท้อนนวัตกรรมที่เกิดจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันยาวนานในการต่อยอด โรงกลั่นเดิมให้กลายเป็นโรงกลั่นชีวภาพครบวงจรโดยไม่ต้องสร้างใหม่แล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ GC ในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คนในสังคม