GC_ONE REPORT 2021_TH

อยู่ที่ 2,133 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน หรือมีระดับส่วนต่างระหว่าง ราคาผลิตภัณฑ์ PO และโพรพิลีน เฉลี่ยที่ 1,357 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ธุรกิจ Polyether Polyols ในปี 2564 มีความต้องการของตลาด โลกประมาณ 8 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ประมาณร้อยละ 3.4 ส่วนด้านอุปทานส� ำหรับปี 2564 นั้นมีก� ำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 1,133,000 ตันต่อปี อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 1 ของ ปี 2564 มีการขาดแคลน Propylene Oxide และ Polyether Polyols จากปรากฏการณ์ Polar Vortex ในสหรัฐฯ ประกอบกับ การประกาศนโยบาย Dual Control Energy Policy ในประเทศจีน ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2564 ท� ำให้หลายโรงงานหยุดการผลิต รวมถึงมีการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเป้าหมายตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2563 เป็นต้นมา เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องนอน และเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และบรรจุภัณฑ์ ส่งผลให้มีความต้องการการใช้ Polyether Polyols เพิ่มสูงขึ้น โดยราคาผลิตภัณฑ์ในปี 2564 อยู่ที่ 2,464 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 795 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน จากปี 2563 อุตสาหกรรม Coating Resins ยังคงมีการเจริญเติบโตในระดับสูง และมีการฟื้นตัวในช่วงปี 2563 อันเนื่องจากไวรัสโควิด-19 โดย ในปี 2564 ความต้องการผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโลหะอุตสาหกรรม (Industrial Metal) กลุ่มไม้เพื่อการอุตสาหกรรม (Industrial Wood) กลุ่มท่อและโลหะ (Coil & Pre-Coated Metal) ยางรถยนต์ การเคลือบสียานยนต์ และอื่นๆ เพิ่มขึ้นสูง อย่างไรก็ดี ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งแม้จะมีความ ต้องการเพิ่มสูงขึ้นหลังโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ได้รับผลกระทบ ในด้านการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 อันเนื่องจากสภาวะ การขาดแคลนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จ� ำพวก Semiconductor ที่ใช้ในอุตสาหกรรมดังกล่าว ท� ำให้สภาวะตลาดยังไม่กลับเข้าสู่ ภาวะปกติ แนวโน้มสถานการณ์ตลาด ผลิตภัณฑ์ Performance Materials and Chemicals ในปี 2565 คาดการณ์ว่าในปี 2565 สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 จะคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลเชิงบวกต่อ เศรษฐกิจโลก และความต้องการผลิตภัณฑ์ HDI และ HDI Derivatives กลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสภาวะปกติมากขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าตลาดจะกลับเข้าสู่สมดุลจากปัจจัย ที่ผู้ผลิตส่วนใหญ่สามารถกลับมาผลิตได้ตามแผน ทั้งนี้ อัตรา การฟื้นตัวของธุรกิจในปี 2565 ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของ อุตสาหกรรมปลายทาง ได้แก่ กลุ่มยานยนต์และก่อสร้าง ความพร้อมและต้นทุนการขนส่งทางทะเล ผลิตภัณฑ์ AN และ MMA คาดการณ์ว่าในปี 2565 ราคาจะมี แนวโน้มปรับตัวลดลง โดยมีสาเหตุหลักจากสถานการณ์อุปทาน ตึงตัวจะเริ่มผ่อนคลายลงจากปี 2564 ประกอบกับการขยาย ก� ำลังการผลิตที่ก� ำลังจะเกิดขึ้น ด้านอุปทานของตลาด AN จะมีก� ำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นจากประเทศจีนทั้งหมด 3 ราย รวมก� ำลังการผลิตที่ 720,000 ตันต่อปี ซึ่งสูงกว่าความต้องการ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 318,000 ตันต่อปี ขณะที่โรงงานผลิต MMA ที่คาดว่าจะเริ่มด� ำเนินการเพิ่มเติมในปี 2565 มี 3 แห่ง จากประเทศจีน รวมขนาดก� ำลังการผลิตราว 205,000 ตันต่อปี และอีก 1 โรงงานจากประเทศอินเดียขนาด 60,000 ตันต่อปี ซึ่งเกินกว่าความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 164,000 ตัน ต่อปี อย่างไรก็ตาม จากความต้องการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจ การผ่อนคลาย มาตรการควบคุมต่างๆ อัตราการเพิ่มขึ้นของการฉีดวัคซีน และ ความต้องการอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและส� ำนักงานภายใต้ สภาวะ New Normal เช่น การท� ำงานจากที่พักอาศัย (Work from Home) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนอุปสงค์ของอุปกรณ์เครื่องใช้ ไฟฟ้ าและอุปกรณ์ ด้ านสุขอนามัย ซึ่งจะช่ วยสนับสนุน อุตสาหกรรมปลายน�้ ำและอุตสาหกรรม AN และ MMA ให้ เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์ PO ในปี 2565 คาดว่าจะมีปัจจัยบวกต่อเนื่องจาก ปี 2564 จากนโยบาย Dual Control Energy Policy ในจีน อย่างไรก็ดี มีปัจจัยลบจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในประเทศจีน ที่ประมาณ 1,150,000 ตันต่อปี ซึ่งกว่าร้อยละ 60 ของก� ำลัง การผลิตดังกล่าว หรือคิดเป็นก� ำลังการผลิตประมาณ 700,000 ตันต่อปี เป็นโรงงานที่ไม่มีก� ำลังการผลิตปลายน�้ ำรองรับ (Non-Integrated Plant) นอกจากนี้ ยังมีก� ำลังการผลิตใหม่ ราว 300,000 ตันต่อปีจากสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่ากว่าร้อยละ 30 ของ ก� ำลังการผลิตนี้จะถูกส่งออกมายังตลาดจีนและภูมิภาคเอเชีย จากปัจจัยที่กล่าวมานั้น คาดว่าจะส่งผลให้ตลาดโพรพิลีนออกไซด์ อ่อนตัวลงเล็กน้อย ผลิตภัณฑ์ Polyether Polyols คาดการณ์ว่าความต้องการของ ตลาดโลกในปี 2565 ยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจาก ปลายปี 2564 จากการปรับตัวของสภาวะ New Normal ท� ำให้ สินค้าจ� ำพวกเครื่องนอนและเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ มีความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการที่ ผู้บริโภคหันมาใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยง การเข้าพื้นที่แออัด เป็นต้น โดยคาดว่าจะมีความต้องการ ผลิตภัณฑ์ Polyether Polyols เพิ่มขึ้นประมาณ 360,000 ตัน แต่ด้านอุปทานจะมีผู้ผลิตเริ่มด� ำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น ในประเทศฮังการี ก� ำลังการผลิต 200,000 ตันต่อปี เป็นปัจจัย กดดันราคาผลิตภัณฑ์ จากปัจจัยดังกล่าวคาดว่าตลาดผลิตภัณฑ์ Polyether Polyols ในปี 2565 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปี 2564 การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะท� ำให้แนวโน้มธุรกิจของ allnex ดีขึ้น อย่างไรก็ดี คาดการณ์ว่าการขาดแคลน Semiconductor ใน อุตสาหกรรมยานยนต์จะยังคงด� ำเนินต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี 2565 จึงอาจกดดันความต้องการของผลิตภัณฑ์ Coating Resins อยู่บ้าง โดยคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะคลายตัวใน ครึ่งหลังของปี 2565 โดยในระยะยาวคาดการณ์การเจริญเติบโต ของอุตสาหกรรม Coating Resins ในช่วงปี 2565-2568 จะสูงกว่าการเจริญเติบโตของ GDP ในภาพรวม นอกจากนี้ อุตสาหกรรมต่อเนื่องของ Coating Resins ประเภทสารเติมแต่ง (Additives) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ส� ำคัญของ allnex ก็มีแนวโน้ม การเจริญเติบโตที่ดีในระดับสูงเช่นกัน 69 การประกอบธุรกิจ และผลการดำ �เนินงาน การกำ �กับดูแลกิจการ งบการเงิน ภาคผนวก

RkJQdWJsaXNoZXIy ODg4NTI=