เราเชื่อว่า “ไม่มีใครสร้างความยั่งยืนได้เพียงลำพัง” ความยั่งยืนที่แท้จริงเกิดขึ้นจาก ‘ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุตสาหกรรม — ตั้งแต่โรงงานผลิต คู่ค้า ไปจนถึงผู้บริโภค ที่ร่วมกันขับเคลื่อนสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ “อนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน”

ภายใต้บริบทของโลกที่เผชิญวิกฤตภาวะโลกร้อนอย่างหนัก GC จึงกำหนดความยั่งยืนเป็นยุทธศาสตร์หลัก พร้อมตั้งเป้าหมายสู่ Net Zero หรือ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2050 และทำทุกทางเพื่อไม่เพิ่มภาระให้กับโลกใบนี้ นี่ไม่ใช่เพียงคำประกาศ แต่คือการ “ลงมือทำจริง”

ลดแค่เราไม่พอ ต้องลดทั้งห่วงโซ่ที่เกี่ยวข้อง

GC เชื่อว่าการลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ผลจริง ต้องเกิดจาก “ความร่วมมือของทั้งห่วงโซ่” ที่ทุกภาคส่วนตั้งแต่ ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เห็นความสำคัญและเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนต่อโลกใบนี้ อย่างแท้จริง เราจึงขยายเป้าหมายไปสู่ “พันธมิตรทุกคนใน Value Chain ของ GC” ให้ร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 50% ในปี 2050 ภารกิจร่วมที่ต้องเดินไปด้วยกันในทุกขั้นตอนการผลิต ภารกิจที่สะท้อนถึงความตั้งใจของ GC ในการ “เปลี่ยนทั้งระบบ” ไม่ใช่แค่เปลี่ยนเฉพาะเรา

เพราะในวันนี้ โลกต้องการมากกว่าคำมั่น
ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่สะท้อนความรับผิดชอบ โปร่งใส ปล่อยคาร์บอนต่ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืนจึงไม่ใช่เพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่คือ “มาตรฐานใหม่ของการอยู่รอด และการเติบโตอย่าง ภาคภูมิบนเวทีโลก”

การบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่ เพื่อส่งเสริมการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

เราจึงกำหนดกลยุทธ์บริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การคัดเลือกคู่ค้าที่มีศักยภาพ สอดคล้อง กับแนวทาง ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) ไปจนถึงการส่งเสริมและสนับสนุนให้คู่ค้าดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ เพิ่มข้อกำหนดเกณฑ์ด้าน ESG โดยเฉพาะเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการบริหารจัดการน้ำในสัญญาของคู่ค้า (Supplier contract) รวมถึง กำหนดจรรยาบรรณในการจัดซื้อจัดจ้างอย่างโปร่งใส เพื่อให้ “ทุกการผลิตของ GC” สะท้อนมาตรฐานความยั่งยืนที่เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ GC ยังเดินหน้านโยบายการจัดซื้อสีเขียว (Green Procurement) และ โลจิสติกส์ที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

นอกเหนือจากหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างทั่วไป มองภาพรวมทั้งวงจร ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง ไปจนถึงการจัดการของเสีย เพื่อให้ทุกขั้นตอนของเราสร้างผลลัพธ์เชิงบวกทั้งต่อธุรกิจและต่อโลก

เพราะเรารู้ดีว่า ความยั่งยืนที่แท้จริงไม่ได้วัดจาก “เราทำได้เท่าไร”
แต่จาก “เราสามารถพาทั้งระบบไปไกลได้แค่ไหน”

แบ่งปันความรู้ สู่เป้าหมายร่วมกัน

การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน... ต้องเกิดจาก “การเรียนรู้ร่วมกัน”

GC เชื่อมั่นว่า ความรู้คือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนทั้งอุตสาหกรรมไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เราจึงไม่หยุดอยู่ แค่การลงมือทำ แต่ยัง “แบ่งปันสิ่งที่เรารู้” เพื่อให้ทุกคนในห่วงโซ่การผลิตเติบโตไปพร้อมกัน

ด้วยประสบการณ์จริงจากการดำเนินงานด้าน Decarbonization (กระบวนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ เพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน) GC ถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงลึก ผ่านโครงการ ESG & Decarbon Program for Business Partners โดยทีมวิทยากรทั้งจากผู้บริหาร GC และ วิทยากรภายนอกซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้คู่ค้าเข้าใจและปรับตัวสู่แนวทางธุรกิจคาร์บอนต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ GC ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้า ช่วยวางแนวทาง ปรับกระบวนการ และยกระดับศักยภาพในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทุกธุรกิจ ใน Value Chain สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้จริง และเดินไปสู่เป้าหมาย Net Zero ร่วมกับเรา

โครงการนี้ไม่เพียงสร้างองค์ความรู้ใหม่ แต่ยังเป็น “เวทีแห่งความร่วมมือ” ที่ GC ใช้สื่อสารทิศทางความยั่งยืน แลกเปลี่ยนมุมมอง และสร้างแรงบันดาลใจให้พันธมิตรทุกคนเห็นคุณค่าในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน

GC แตกต่างด้วยการสร้างความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่การผลิตจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ สำหรับเรา...ความยั่งยืนไม่ใช่การแข่งขันว่าใครทำได้ดีกว่า แต่คือการลงมือทำไปด้วยกัน เพื่อโลกที่ดีกว่าของทุกคน