GC_ONE REPORT 2021_TH

พาราไซลีน ในปี 2564 สถานการณ์ตลาดพาราไซลีนได้รับปัจจัยสนับสนุน จากสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยในระหว่างปีอุปสงค์ของผลิตภัณฑ์พาราไซลีนมีมากขึ้นจาก ก� ำลังการผลิตใหม่ๆ ของกรดเทเรฟทาริกบริสุทธิ์ (Purified Terephthalic Acid: PTA) ที่ทยอยเริ่มด� ำเนินการผลิตโดยเฉพาะ ในประเทศจีน รวมถึงปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ PET Resin เพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมา ใช้สินค้าบรรจุภัณฑ์ (Packaging) มากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างไรก็ตามยังคงมีปัจจัย กดดันจากความต้องการผลิตภัณฑ์สินค้าปลายทางในกลุ่ม อุตสาหกรรมสิ่งทอลดลง รวมถึงนโยบายควบคุมการใช้พลังงาน ของประเทศจีน ซึ่งส่งผลให้มีการลดก� ำลังการผลิตของผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์ปลายทางกลุ่มผลิตภัณฑ์ เส้นใยโพลิเอสเทอร์ (Polyester) ในบางพื้นที่ ในด้านอุปทานก� ำลังการผลิตพาราไซลีน ในตลาดโลกขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2563 โดยมาจากประเทศจีน เป็นส่วนใหญ่จากนโยบายพึ่งพาการผลิตในประเทศและลด การน� ำเข้าจากต่างประเทศ ประกอบกับมีแรงกดดันจากปริมาณ สินค้าคงคลังที่ปรับตัวสูงขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ส่วนต่าง เฉลี่ยของราคาผลิตภัณฑ์พาราไซลีนกับราคาคอนเดนเสท ในปี 2564 อยู่ที่ 259 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 229 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันในปี 2563 เบนซีน ในปี 2564 สถานการณ์การตลาดเบนซีนได้รับปัจจัยสนับสนุน จากเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น แม้จะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ โดยในไตรมาส 2/2564 และไตรมาส 3/2564 เป็นช่วงที่ระดับปริมาณสินค้า คงคลังของผลิตภัณฑ์เบนซีน อยู่ในระดับลดลงกว่าระดับปกติ ท� ำให้มีส่วนต่างเฉลี่ยของราคาผลิตภัณฑ์เบนซีนกับราคา คอนเดนเสทอยู่ในระดับที่สูง ด้านอุปสงค์ของผลิตภัณฑ์เบนซีน ยังมีความต้องการใช้จากโรงงานสไตรีนโมโนเมอร์ใหม่ในปี 2564 รวมถึงความต้องการใช้สินค้าที่มีความจ� ำเป็นเพื่อรองรับ พฤติกรรมการท� ำงานที่บ้านมากขึ้น (Work from Home) การปรับพฤติกรรมลดการใช้การเดินทางมาใช้รถยนต์ส่วนตัว มากขึ้น ท� ำให้สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (Home Appliances) อุตสาหกรรมก่อสร้าง (Construction) และอุตสาหกรรมรถยนต์ (Automotive) มีความต้องการมากขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างเฉลี่ย ของราคาผลิตภัณฑ์เบนซีนกับราคาคอนเดนเสทในปี 2564 อยู่ที่ 318 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ปรับตัวดีขึ้นจาก 136 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันในปี 2563 Market P2F ของผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ (หน่วย: เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน) 2563 2564 YoY % +/(-) Market P2F 130 153 17% Hedging Gain/(Loss) 2.5 18.5 >200% Stock Gain/(Loss) net NRV -28.6 35.4 >200% Accounting P2F 104 206 99% Adjusted EBITDA (MB)* 3,635 7,206 98% Adjusted EBITDA (%) 11% 11% 0% Utilization Rate (%) 96% 99% 3% หมายเหตุ : *Adjusted EBITDA คือ EBITDA ที่ไม่รวมผลกระทบจากมูลค่าสต๊อกน้ำ �มัน (Stock gain/loss net NRV) และรายการพิเศษ ในปี 2564 ธุรกิจผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์มีอัตราการใช้ก� ำลัง การผลิตสารอะโรเมติกส์ (BTX Utilization) อยู่ที่ร้อยละ 99 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าตามภาวะอุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับในปีนี้ไม่มีแผนการหยุดซ่อมบ� ำรุงใหญ่ ขณะที่ปีก่อน มีการหยุดซ่อมบ� ำรุงตามแผนของโรงงานอะโรเมติกส์แห่งที่ 2 จ� ำนวน 19 วัน ทั้งนี้ Market P2F ต่อตันผลิตภัณฑ์ BTX ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 153 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน สาเหตุหลักมาจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เบนซีนกับราคา คอนเดนเสทที่สูงขึ้นมาก และส่วนต่างผลิตภัณฑ์พาราไซลีนกับ คอนเดนเสทที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยมี Adjusted EBITDA ในปีนี้อยู่ที่ 7,206 ล้านบาท คิดเป็น Adjusted EBITDA Margin อยู่ที่ร้อยละ 11 (โดยที่มี Adjusted EBITDA และ Adjusted EBITDA Margin ซึ่งไม่รวมผลก� ำไรจากตราสารอนุพันธ์เพื่อ ประกันความเสี่ยงสุทธิอยู่ที่ 5,707 ล้านบาท และร้อยละ 9 ตามล� ำดับ เพิ่มขึ้นจาก 3,442 ล้านบาท และร้อยละ 10 ในปี 2563 ตามล� ำดับ) ทั้งนี้ บริษัทฯ รับรู้ผลก� ำไรจากสต๊อกน�้ ำมัน (Stock Gain) อยู่ที่ 35.4 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน รวมทั้งรับรู้ ผลก� ำไรจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยงสุทธิ 18.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ส่งผลให้ก� ำไรขั้นต้นทางบัญชี (Accounting P2F) ในปีนี้อยู่ที่ 206 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก ปีก่อนหน้าที่ร้อยละ 99 101 การประกอบธุรกิจ และผลการดำ �เนินงาน การกำ �กับดูแลกิจการ งบการเงิน ภาคผนวก

RkJQdWJsaXNoZXIy ODg4NTI=